Slide Background
สถานพำนักภิกษุอาพาธระยะท้าย
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่มีมารดาไม่มีบิดา ผู้ใดเล่าจะพึงพยาบาลพวกเธอ ถ้าพวกเธอจักไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่าจักพยาบาล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธ”

ร่วมบริจาคเพื่อ
โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์สันติภาวัน

แนะนำสันติภาวัน

“ทุกวันนี้มีภิกษุอาพาธระยะท้ายจำนวนมาก ที่ปรารถนาจะมรณภาพอย่างสงบ โดยไม่ต้องการยื้อชีวิต และไม่ประสงค์จะสิ้นลมที่โรงพยาบาล แต่สถานที่ที่จะรองรับภิกษุเหล่านี้มีน้อยมาก โดยที่วัดจำนวนมากก็ขาดบุคลากร และทักษะในการทำหน้าที่ดังกล่าว ศูนย์สันติภาวัน จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลภิกษุอาพาธในวาระสุดท้ายของชีวิต”

พระไพศาล วิสาโล
ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิสันติภาวัน

ปัญหาเมื่ออาพาธ

ในพุทธศาสนาภาวะใกล้ตายและจิตสุดท้ายเป็นขณะที่สำคัญยิ่งในการกำหนดภพภูมิต่อไป ทั้งยังเป็นจังหวะสำคัญที่นำสู่การหลุดพ้นด้วย พระภิกษุผู้ที่ตั้งใจบวชอุทิศตนต่อพระศาสนาล้วนต่างปรารถนาให้บรรยากาศในวาระสุดท้ายแห่งชีวิตตนเกื้อหนุนต่อการพัฒนาจิตทั้งสิ้น

น่าเสียดายที่ระบบดูแลพระอาพาธในบ้านเราเมืองพุทธ นอกจากจะไม่เอื้อต่อการพัฒนาจิตแล้ว ยังทำให้ศีลและวัตรของท่านมัวหมอง ต้องอาบัติมากมาย หากจะรักษาตัวอยู่ที่วัดก็ติดขัดเรื่องผู้ดูแลและยาที่ใช้ ในที่สุดต้องสิ้นลมไปอย่างเดียวดายที่โรงพยาบาล หรือหากญาติรับไปดูแลที่บ้านก็มักต้องลาสิกขาในที่สุด การมีสถานที่ดูแลพระอาพาธระยะท้าย เพื่อเตรียมการให้ท่านจากไปอย่างสงบงดงามตามวิถีแห่งสมณะย่อมเกื้อกูลต่อท่านอย่างยิ่ง


ความเป็นมา

ศูนย์สันติภาวัน เริ่มต้นที่วัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ เมื่อต้นปี ๒๕๖๒ โดยปรับปรุงกุฏิด้านหน้าวัดรองรับการดูแลพระอาพาธได้ ๓ เตียง รับดูแลภิกษุอาพาธโดยไม่จำกัดสำนัก นิกาย และไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อพบว่าโครงการเป็นที่ยอมรับของหมู่สงฆ์และญาติโยม ประกอบกับได้มีผู้ศรัทธาถวายพื้นที่อันสัปปายะให้ ๑๕ ไร่ ที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ให้จึงได้ย้ายมายังที่ใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

ศูนย์สันติภาวันได้ปรับปรุงพื้นที่และพัฒนากิจกรรมขึ้นตามกำลัง โดยมีมูลนิธิสันติภาวันเป็นองค์กรสนับสนุนหลักทำงานควบคู่กันไป เพื่อให้พื้นที่นี้เป็นต้นแบบของการดูแลพระอาพาธให้ท่านดำรงชีวิตอยู่อย่างสงบงดงามตามพระธรรมวินัยได้แม้ในระยะท้ายของชีวิต รวมทั้งจะร่วมสนับสนุนให้วัดที่มีศักยภาพจัดระบบดูแลพระภิกษุอาพาธขึ้นในพื้นที่ของตนเอง และเป็นพื้นที่เผยแผ่ธรรมะเกี่ยวกับชีวิตและความตายสู่สังคมด้วย

การสนับสนุนสันติภาวัน

อาสาสมัคร

ที่ศูนย์สันติภาวันเรามองว่าการดูแลพระอาพาธคือการปฏิบัติธรรม หากท่านคือผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรมผ่านการดูแลพระอาพาธ โดยเฉพาะพระภิกษุ สามเณร ซึ่งสามารถช่วยดูแลได้อย่างใกล้ชิดและเป็นภาพที่งดงาม ส่วนสุภาพสตรีอาจมีงานให้ช่วยค่อนข้างจำกัดกว่า ท่านที่สนใจสามารถติดต่อนัดหมายศูนย์ฯ ได้โดยตรง

การบริจาคสิ่งของ

เนื่องจากพระอาพาธแต่ละรูปมีสภาพร่างกายและอาการที่ต้องดูแลต่างกัน จึงใช้วัสดุอุปกรณ์ที่แตกต่างกันไปบ้าง เพื่อให้สิ่งของบริจาคได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ไม่เป็นภาระในการเก็บ หรือเสียหายจากการหมดอายุ ขอความกรุณาท่านที่ประสงค์จะบริจาคสิ่งของติดต่อสอบถามไปที่ศูนย์สันติภาวันก่อน

สนับสนุนค่าใช้จ่าย

ผู้ที่ประสงค์สนับสนุนเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ สามารถโอนเข้า “บัญชีมูลนิธิสันติภาวัน” ใบเสร็จรับเงินของมูลนิธิฯ “ยังไม่สามารถ” ใช้หักลดหย่อนภาษี

ธนาคารกรุงไทย สาขาบางกรวย
เลขที่ 109-0-30655-5

ธนาคารกสิกรไทย สาขาสอยดาว
เลขที่ 075-8-10936-4

K+ market ใน แอพฯ K Plus ของ ธ.กสิกรไทย
หรือใช้แอพฯ ธนาคาร สแกน QR ตามภาพ

ประสบการณ์การดูแลพระอาพาธ

มูลนิธิสันติภาวัน

มูลนิธิสันติภาวัน จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานของศูนย์สันติภาวันโดยตรง โดยเฉพาะเรื่องการเงินและค่าใช้จ่ายให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ ได้รับการจดทะเบียนจากนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

  1. สนับสนุนการทำงานในทุกๆ ด้านของศูนย์สันติภาวัน
  2. ส่งเสริมการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับภิกษุอาพาธ และพัฒนาระบบอุปัฏฐากภิกษุอาพาธให้มีคุณภาพสอดคล้องกับพระธรรมวินัย และเข้าได้กับยุคสมัย
  3. กระตุ้นให้คณะสงฆ์ ระบบสาธารณสุข และสังคมทั่วไป ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลภิกษุอาพาธที่เอื้อต่อพระธรรมวินัยและบริบททางสังคม
  4. สนับสนุนการเผยแผ่หลักธรรมเกี่ยวกับชีวิตและความตายในวิถีพุทธสู่สังคม
  5. ดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่น ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์
  6. ไม่ดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด