คำถามหนึ่งที่เรามักใช้เปิดประเด็นพูดคุยเรื่องสุขภาพกับพระคือ
หากท่านประสบอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชนขณะบิณฑบาต หรือเส้นเลือดสมองเกิดตีบแตกขึ้นมาวันนี้ แม้รอดชีวิตมาได้ แต่พิการติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ท่านคิดว่าจะอยู่อย่างไร
ปฏิกิริยาหลังได้รับคำถามส่วนใหญ่คือ ความเงียบ เมื่อถูกคะยั้นคะยอ คำตอบที่ได้รับมากที่สุดคือ ไม่รู้ ไม่เคยคิดมาก่อน หรือไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่อย่างไร แต่ทุกท่านยอมรับว่า สถานการณ์สมมติที่ว่านั้น มีโอกาสเกิดขึ้นกับตนเองได้เสมอ
บางท่านบอกว่าจะขอมาอยู่กับเราที่สันติภาวัน ซึ่งก็ได้รับการปฏิเสธเพราะอาการที่ว่านี้ ยังไม่ถือว่าอาพาธอยู่ในระยะท้าย ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่เราจะรับดูแล
แม้ทุกวันนี้มีการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลขึ้นหลายที่ ซึ่งอาจช่วยดูแลได้ แต่ท่านก็ยังไม่มั่นใจเช่นกันว่าเขาจะรับไว้หรือไม่
แหล่งพึ่งพิงหนึ่งที่ดูจะสร้างความมั่นใจให้พระหลายรูปคือ การกลับไปอยู่กับลูก หรือญาติพี่น้อง
แต่เมื่อถามย้ำกับท่านว่ามั่นใจเพียงใด ที่ทางบ้านจะดูแลได้อย่างต่อเนื่องไปอีก ๕-๑๐ ปี ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะรู้ดีว่าเป็นเรื่องยาก ญาติๆ หรือแม้แต่ลูก ต่างก็มีภาระในชีวิตครอบครัวของเขา
มีพระเพียงส่วนน้อยที่ระบุว่าจะอยู่ที่วัดเดิมต่อไป และมั่นใจว่าทางวัดจะดูแล เพราะขณะนี้และในอดีตที่ผ่านมา ที่วัดเคยดูแลพระอาพาธมาแล้ว และตนเองก็ได้มีส่วนร่วมในการดูแลอยู่ด้วย
แต่กระนั้นก็ยังกังวลอยู่ลึกๆ ว่า หากเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสในอนาคต สถานการณ์เรื่องนี้ก็อาจเปลี่ยนไปได้เช่นกัน
ส่วนพระที่ค่อนข้างสูงวัยมักตอบคล้ายๆ กันว่า “ก็แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมา” หรือ “เชื่อว่าบุญกุศลที่ทำมา คงช่วยให้มีคนดูแลเราในวันนั้น” แน่นอนว่าเมื่อถามท่านว่ามั่นใจเพียงใด ก็ได้คำตอบว่า “ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ความไม่แน่นอนนั้น เกิดขึ้นอย่างแน่นอนกับทุกสิ่งที่ประกอบด้วยเหตุปัจจัย
หลายครั้งความไม่แน่นอนได้นำความสุขความยินดีมาให้เรา ดั่งเช่นเทศกาลปีใหม่ ที่เรากำลังเฉลิมฉลองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะได้พบในศกหน้า
แต่ทุกคนรู้ดีว่า ความเปลี่ยนแปลงในทางลบที่สร้างความทุกข์ให้เรานั้นมีอยู่ไม่น้อย พุทธศาสนา จึงเตือนให้เรามีสติ ใช้ปัญญานำทาง และลงมือใช้ชีวิต ด้วยความไม่ประมาทอยู่เสมอ
ก็ในเมื่อความชรา อาพาธ เป็นความเปลี่ยนแปลงที่นำความลำบากใหญ่หลวงมาให้ทุกชีวิต จะมาเมื่อไร ลักษณะไหนก็ไม่มีใครรู้ชัด
ก่อนเวลานั้นจะมาถึง เราจะไม่ใช้สติ ปัญญา ลงมือ ลงแรง ทำอะไรสักอย่าง ที่พอจะสร้างความมั่นใจให้กับชีวิตอันไม่แน่นอนของเราส่วนนี้กันบ้างเลยหรือ
ปีใหม่นี้ พวกเราทั้งพระและญาติโยมเราจะทำอะไรกันบ้าง เพื่อสร้างความมั่นใจในความเป็นอยู่ในอนาคต ยามที่เราอาจพิการ แก่ชรา หรือว่าป่วยหนักจนพึ่งตัวเองไม่ได้
