ในที่สุดเช้ามืดวันนี้พระวิโรจน์ก็ได้ทิ้งร่างอันร่วงโรยของท่านไปสู่ภพภูมิใหม่ เหลือไว้เพียงความทรงจำดีๆ ที่ได้ดูแลท่าน รวมทั้งธรรมะและประสบการณ์ในการดูแลพระอาพาธอีกชุดหนึ่งไว้กับเรา

ถ้าพูดกันภาษาบ้านๆ พระวิโรจน์จัดว่าเป็นคนที่ “ตายยาก” พอควร แต่ไม่ใช่ตายยากในเชิงหนังเหนียวหรือดวงดีแบบที่คนเข้าใจกันทั่วไป และก็มิได้หมายถึงว่าท่านเจ็บปวดทรมานนานกว่าจะสิ้นลม

ตรงกันข้ามท่านเป็นพระอาพาธที่ดูแลง่ายไม่เคยแสดงอาการเจ็บปวดโอดโอยให้ปรากฏ ไม่มีแผลเรื้อรัง ไม่เคยฉันยาแก้ปวดเลย แต่ตายยากในที่นี้ มีความหมายตรงตัวว่า เหมือนท่านจะไปๆ แต่ก็ไม่สิ้นลมสักที

อย่างที่เคยเล่าไว้ว่า อาการของท่านทรุดลงอย่างรวดเร็วหลังจากมีปัญหาในการกลืน ผ่านไปเพียง ๑๐ วัน เราให้อาหารท่านได้เพียงแค่การหยอดอาหารทางการแพทย์และน้ำซุปเท่านั้น แน่นอนว่าหากท่านไม่มีอาการทางสมองและสารพัดโรคแทรกซ้อนที่รุมเร้า เราคงรีบพาท่านไปโรงพยาบาล แต่กรณีนี้ทั้งหมอและญาติเท่าที่มี ต่างก็เห็นตรงกันว่านี้คือผลพวงของโรคทั้งหลายที่ท่านเป็นอยู่ ซึ่งสื่อว่าท่านเข้าใกล้ระยะสุดท้ายของชีวิตแล้ว

หลังจากหมดเรี่ยวแรงผอมแห้งต้องนอนติดเตียง อาการของท่านก็เพียบลงทุกวัน หลายครั้งที่เราประเมินกันว่าท่านไม่น่าจะพ้นคืนนี้ แต่ท่านก็ยังคงมีลมหายใจอยู่ต่อได้คืนแล้วคืนเล่า บางครั้งต้องยืนสังเกตอยู่ใกล้ๆ สักพัก จึงจะเห็นว่าท่านยังหายใจอยู่ เครื่องวัดความดันโลหิต วัดออกซิเจนในเลือด ขึ้น error อ่านค่าไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง

การดูแลในช่วงนี้พวกเราพยายามทำให้ท่านสบายที่สุด นำที่นอนที่ป้องกันการเกิดแผลกดทับมาเสริมตั้งแต่เริ่มติดเตียง ปรับท่านอนกันสำลักเวลาให้น้ำ แม้กระทั่งผ้าอ้อมสำเร็จเราก็เลิกใส่ให้ ด้วยคิดว่าท่านอาจรำคาญ เพราะยามมีแรงท่านชอบดึงออกเสมอๆ

พร้อมกันนั้นก็พูดเตือนท่านเป็นระยะๆ ให้ปล่อยวางภาระ ให้อภัยและอโหสิกรรมในความผิดพลาดของผู้คนและตนเอง ตัดความกังวลห่วงใยที่มี แล้วเปิดเสียงทำวัตร-สวดมนต์ให้ท่านฟังไปเรื่อยๆ

เย็นวานนี้เราตัดสินใจชวนพระน้องชายและโยมที่เคยใกล้ชิดท่านให้มาเยี่ยมอีกครั้ง โดยให้เตรียมโทรศัพท์มาเผื่อว่าจะวิดีโอคอลไปหาลูกหลานท่านด้วย แม้จะไม่ได้ใช้ แต่ก็เป็นโอกาสให้ผู้ที่มาได้กล่าวคำร่ำลาอโหสิกรรมกันอีกครั้ง ซึ่งเรามั่นใจว่ามีส่วนไม่มากก็น้อยที่ทำให้ท่านจากไปอย่างสงบในคืนที่ผ่านมา

แม้จะตายยาก แต่อาจกล่าวได้ว่าพระวิโรจน์ท่าน “ตายเย็น” คงพูดได้ยากว่าจิตท่านสงบเย็นในช่วงใกล้ตายหรือไม่ แต่อย่างน้อยท่านก็เย็นในแง่ที่มิได้แสดงอาการทุรนทุรายก่อนตาย ตายด้วยอาการสงบโดยไม่ต้องอาศัยยาใดๆ ช่วย ไม่มีท่อ/สายระโยงระยางทิ่มแทงร่างกาย รวมทั้งมีบรรยากาศแวดล้อมสงบเย็นเป็นกุศล มีเสียงสวดมนต์ที่พระเราคุ้นหูคลอ

รุ่งเช้าเราทำความสะอาดร่างกาย นุ่งห่มผ้าไตรจีวรผืนใหม่ พร้อมทั้งกล่าวคำอำลา ตั้งความปรารถนาให้ท่านไปสู่ภพภูมิที่ดี และเตรียมพร้อมส่งร่างให้กับทางวัดของท่าน ที่จะมารับช่วงไปจัดการต่อไป

แม้ตายยาก แต่ตายเย็น ก็จัดเป็น… การตายดี