อีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงกาลแห่งพรรษาประจำปีนี้ ช่วงเวลานี้พระภิกษุส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชอบเรียนรู้ตามพื้นที่ห่างไกล ชอบจาริกไปฝึกตนตามป่าเขา หรือแม้แต่พระบ้านที่ทุ่มเทกับงานประจำที่วัด ต้องตัดสินใจว่าตนจะจำพรรษาที่ใด


สามเดือนในพรรษาเป็นโอกาสฝึกตนอย่างเข้มข้นของพระ หลายรูปใช้โอกาสนี้ตั้งจิตอธิษฐานทำสิ่งที่ทำได้ยากในช่วงนอกพรรษา เช่น ตั้งใจศึกษาปริยัติ ลงมือฝึกปฏิบัติธรรมอย่างอุกฤษฏ์ หรือตั้งจิตขัดกิเลสบางตัว เช่น จะฉันมื้อเดียวไม่ฉันอย่างอื่นนอกจากน้ำและยา จะไม่รับปัจจัย จะไม่ใช้โทรศัพท์ เป็นต้น


โอกาสพิเศษนี้สันติภาวันจึงอยากเชิญชวนพระคุณเจ้าและญาติโยมมาอธิษฐานจิตทำกิจใหม่กัน ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือการตั้งใจช่วยอุปัฏฐากพระอาพาธติดเตียง ไม่ว่าพระจะอยู่ที่วัด ที่บ้าน อยู่โรงพยาบาล หรือในพื้นที่ที่เราพอจะเดินทางไปช่วยเหลือได้ทำได้ทั้งสิ้น (อาจรวมถึงการช่วยดูแลฆราวาสป่วยติดเตียงที่ขาดผู้ดูแลด้วย)


งานนี้มีความยากง่ายและท้าทายให้เลือกหลายระดับ ขึ้นกับสภาพอาการเจ็บป่วย อารมณ์ พฤติกรรม รวมทั้งภูมิธรรมของพระอาพาธ ควรเลือกทำให้เหมาะกับความพร้อมทางกาย ใจ เวลา รวมถึงทรัพยากรของแต่ละท่าน


เรามีข้อแนะนำในเบื้องต้นว่า ควรอธิษฐานจิตไว้เป็นพื้นฐานก่อนว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขณะดูแล เราจะไม่ใช้ความรุนแรงไม่ว่าทางกายหรือวาจาต่อพระอาพาธเด็ดขาด” ขณะเดียวกันก็ไม่ควรตั้งใจว่าจะไม่โกรธ ไม่เบื่อ ไม่รังเกียจท่าน เพราะมันจะเกิดขึ้นแน่ แต่เราจะพยายามมีสติรู้ทันกิเลสเหล่านั้นให้ไว มิให้ครองใจอยู่นาน


การอธิษฐานจิตเพื่อกิจนี้เป็นการสร้างบุญบารมีที่ยิ่งใหญ่ นอกจากจะเกื้อกูลต่อพระอาพาธโดยตรงแล้ว การอุปัฏฐากพระอาพาธยังเป็นการปฏิบัติตามสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงฝากฝังไว้ ทั้งเป็นโอกาสฝึกให้เรามีสติเท่าทันกิเลสเร็วขึ้น มีปัญญาเห็นชัดถึงความเป็นปฏิกูลของร่างกาย ความไม่เที่ยงของชีวิต รวมทั้งช่วยสร้างความมั่นคงให้พระศาสนา ให้ผู้ที่เข้ามาบวชมั่นใจว่าเมื่อแก่ชราอาพาธไปยังมีใครคอยดูแล


การเดินธุดงค์ไปในป่าเขา เป็นการฝึกเอาชนะความกลัวภัยในธรรมชาติ ส่วนการลงมือดูแลพระอาพาธ เราจะได้เผชิญหน้ากับกิเลสสารพัดชนิดที่แผลงฤทธิ์ในจิตใจเรา


ใครที่คิดว่าได้ฝึกให้จิตมั่นคง ปลงได้ ขจัดความโกรธ รังเกียจ เบื่อหน่าย หรือความเห็นแก่ตัวลงได้บ้างแล้ว พรรษานี้เราอยากชวนให้ลองธุดงค์ที่ข้างเตียงพระอาพาธด้วยกัน เพื่อล่อกิเลสเหล่านั้นให้ปรากฏตัว


ทุกท่านสามารถทำได้ที่วัด/ชุมชนของตนที่มีพระอาพาธติดเตียง แต่ก็ไม่เกี่ยงถ้าจะมาร่วมธุดงค์ด้วยกันที่สันติภาวัน แล้วเมื่อถึงวันออกพรรษาเราจะมาสนทนาแลกเปลี่ยนกัน