เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ชาวพุทธว่า สตรีคือผู้อุปถัมภ์หลักของพระศาสนา โดยเฉพาะการเกื้อกูลดูแลอาหารและปัจจัย ๔ ถวายแก่พระเณร บางท่านถึงขั้นอุทิศชีวิตบวชชี อยู่ช่วยงานสารพัดและปฏิบัติธรรมที่วัดไปด้วย
อย่างไรก็ตามสถานภาพของแม่ชีในสายตาญาติโยมนั้นด้อยกว่าพระมาก โดยเฉพาะในด้านความเคารพ ศรัทธา และการช่วยอุปถัมภ์ชีวิตความเป็นอยู่ในวัด ยิ่งเมื่อแก่ชรา หรือเจ็บป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ยิ่งอยู่ลำบาก
เกือบสี่ปีที่สันติภาวันดูแลพระอาพาธระยะท้ายมา มีไม่ต่ำกว่า ๓-๔ ครั้ง ที่ได้รับการติดต่อสอบถามว่ารับดูแลแม่ชีด้วยหรือเปล่า แน่นอนเราตอบปฏิเสธไปว่าไม่ได้รับดูแล ด้วยเหตุผลว่ายังไม่พร้อมในหลายจุด
แม้จำนวนผู้ที่ติดต่อเข้าดูเหมือนว่าเล็กน้อย แต่ใช่ว่าปัญหานี้จะไม่รุนแรง ทั้งนี้เพราะจำนวนนักบวชหญิงที่มีน้อยกว่าเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว และเราเองก็เปิดตัวชัดมาโดยตลอดว่าดูแลเฉพาะพระภิกษุอาพาธ ดังนั้นผู้ที่ “ลอง” ติดต่อเข้ามา คงกำลังกังวลหาคนดูแลไม่ได้จริงๆ
แม้จะดูแลเฉพาะพระ แต่เรามีโอกาสทราบข่าวอยู่เป็นระยะว่า มีแม่ชีและสตรีที่อยู่ช่วยงานวัดมานาน ถูกทางวัดส่งกลับบ้านเมื่อป่วยหนัก หรือถึงขนาดเสียชีวิตตามลำพังอยู่ในกุฏิโดยก็มี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจ สร้างความหวั่นไหว และความลำบากใจให้แม่ชีที่กำลังบวชอยู่ไม่น้อย
สิ่งที่เราทำอย่างหนึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมา คือพยายามสนับสนุนให้สำนักแม่ชีจัดพื้นที่ดูแลกันเองยามป่วยหนักขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่ายังไม่ประสบผลสำเร็จนัก (หรืออาจมีแล้วแต่เราไม่ทราบก็เป็นได้)
ปีใหม่ที่กำลังย่างเข้ามานี้ สันติภาวันจึงมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่เท่าที่เราพอมีอยู่ (คนละอาคารกับพื้นที่ดูแลพระอาพาธปัจจุบัน) เพื่อรองรับนักบวชสตรีที่ป่วยในระยะท้ายสัก ๒-๓ เตียงขึ้นมาก่อน เพื่อเก็บประสบการณ์และเรียนรู้ข้อจำกัดต่างๆ เพื่อหาทางแก้ไข โดยหวังจุดประกายให้ผู้ที่สนใจได้นำไปพัฒนาต่อในพื้นที่ของตน
ในเบื้องต้นนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงสุภาพสตรีที่มีใจกรุณาและเห็นคุณค่าของงานนี้ ประสงค์จะเป็นทีมงานหลัก ช่วยดูแลนักบวชหญิงที่ป่วยในระยะท้าย และจัดระบบขับเคลื่อนงานด้านนี้ในระยะยาวต่อไปด้วยกัน
ท่านที่สนใจเราอยากชวนให้เข้ามาพูดคุย ทดลองใช้ชีวิตอยู่ที่สันติภาวันระยะหนึ่งก่อน ถ้าอยู่ได้ สุขใจที่จะได้ดูแลแม่ชีที่ป่วยระยะท้ายด้วยกัน และเกื้อหนุนการปฏิบัติธรรมของตน ค่อยตัดสินใจกันอีกครั้งก็ได้
พร้อมกันนี้หากมีนักบวชสตรีท่านใด (ภิกษุณี สามเณรี แม่ชี) ที่อาพาธ/ป่วยในระยะท้าย ต้องการผู้ดูแลจนกว่าจะจากไปอย่างสงบตามวิถีพุทธ ก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ในช่วงนี้เช่นกัน
โดยสามารถติดต่อมาได้ที่กล่องข้อความบนหน้าเพจนี้ หรือทางไลน์ ID: santibhavan ก็ได้เช่นกัน
พวกเราจะไม่ทอดทิ้งอุบาสีกา ผู้เกื้อกูลค้ำจุนพระศาสนาไว้ตามลำพัง