ถ้ายังไม่เห็นภาพ อยากเข้ามาเรียนรู้ใช้ชีวิตที่สันติภาวันก่อนตัดสินใจก็ยินดี หลายรูปที่เคยคิดว่าการดูแลพระอาพาธเป็นงานหนักและน่ารังเกียจอาจเปลี่ยนใจ เพราะยุคสมัยที่มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น งานนี้อาจไม่ได้สกปรกยุ่งยากอย่างที่

เทศกาลปีใหม่กำลังใกล้เข้ามา ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง อากาศเย็นๆ ทำให้บรรยากาศดูสดชื่นแจ่มใสยิ่งขึ้น ประจวบกับการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคลง ก็ยิ่งช่วยเสริมให้ผู้คนมีชีวิตชีวามากขึ้น

แต่ท่านที่กำลังเฝ้าไข้คนใกล้ชิด มีญาติสนิทป่วยติดเตียงต้องดูแล อาจรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง เพราะไม่ว่าบรรยากาศในช่วงเทศกาลจะดีเพียงใด ชีวิตก็ต้องดำเนินไปด้วยความเหนื่อยยากจำเจ ทั้งรายจ่ายก็เพิ่มขึ้น เวลาพักก็หดหาย รายได้ก็ลดลง ตั้งตาเฝ้ารอให้ถึงวันที่สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น ปีใหม่ที่จะมาถึงแทบไม่มีความหมาย

มีญาติโยมไม่น้อยที่แสดงความห่วงใยมาถึงพวกเราที่กำลังอุปัฏฐากพระอาพาธกันอยู่ เกรงว่าช่วงเวลาก้าวสู่ศักราชใหม่นี้ จะทำให้สันติภาวันเงียบเหงาเป็นพิเศษ ภาพเสียงแห่งการเฉลิมฉลองของญาติโยมที่อยู่รายรอบ อาจสั่นคลอนอุดมการณ์ ทำให้งานที่ทำอยู่ดูหนักขึ้นกว่าเดิม

ความจริงแล้วไม่ว่าจะช่วงใดพวกเราผ่อนคลายกันเป็นปกติ พระอาจารย์ไพศาลท่านสอนให้เราพยายามพักอยู่เรื่อยๆ แต่เป็นการพักจิตอยู่กับปัจจุบัน พักใจมิให้ปรุงไปในทางอกุศล ประสบการณ์ปรนนิบัติพระอาพาธที่ผ่านมาบอกเราว่า ความเหนื่อยยากในการดูแล ไม่แย่เท่ากับการเก็บเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาคิดลบคิดร้ายให้กายใจเราเองอ่อนล้า

พวกเรายังได้ผ่อนคลายอีกหลายวิธีตามวิถีพระ ที่สละเรือนเบือนออกจากการกินดื่มเฮฮาประสาญาติโยม การเคยอยู่วัดป่าช่วยให้เราไวต่อการสัมผัสธรรมชาติอันรื่นรมย์ ซึ่งมีส่วนมากในการเติมความเบิกบานสดชื่นให้จิตใจแบบไม่รู้ตัว

พระเรายังมีเวลาทำวัตร ฟังธรรม บำเพ็ญภาวนา รวมถึงเวลาบิณฑบาต อันเป็นโอกาสให้ได้ใคร่ครวญธรรม ย้ำอุดมการณ์ พักจิตสงบใจ ได้ออกกำลังกาย และผ่อนคลายไปในตัว นำความแจ่มใส เบิกบาน เข้ามาเติมเต็มชีวิตทุกวัน โดยไม่ต้องพากันไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

ส่วนงานดูแลพระอาพาธที่ทั้งหนักและต้องสัมผัสสิ่งปฏิกูลอันน่ารังเกียจนั้น หากมองว่าทุกวันนี้เรามีทั้งถุงมือ หน้ากาก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ชุดทำแผลปลอดเชื้อ เครื่องซักผ้าอัตโนมัติ ฯลฯ ที่ช่วยให้การดูแลง่ายขึ้นมากจนแทบไม่ได้สัมผัสสิ่งปฏิกูลจากผู้ป่วยเลย ก็ถือว่าเรายังโชคดีที่ดูแลผู้ป่วยได้สบายกว่าคนรุ่นพ่อแม่มากนัก

ความรู้สึกรังเกียจขยะแขยงนั้นมักเกิดจากการมโนไปของใจเรา ที่ขณะนั้นไม่ได้อยู่กับสิ่งที่กำลังทำตรงหน้า หลายครั้งก็นำมาปรุงแต่งภายหลัง เมื่อตั้งสติวางใจเป็นกลางความน่ารังเกียจที่มีอยู่บ้างนั้นก็เบาบางพอรับได้

สำหรับจิตที่ต้องกระทบกับพฤติกรรมอันน่าอึดอัด ต้องสัมผัสใจที่ขุ่นมัวของพระอาพาธ หรืออาจมีคำบริภาษหยาบๆ หลุดออกมา หากเราวางใจถูก เข้าใจว่านั่นเป็นไปตามสภาพของโรค เป็นผลพวงของความทุกข์ที่ท่านแบกรับอยู่ รวมทั้งพื้นฐานชีวิตและการปฏิบัติที่แตกต่างกันของแต่ละท่าน เมื่อน้อมให้เป็นธรรมนำมาพิจารณา ก็เป็นอุบายใช้เตือนตนเองได้ดี ไม่รับสิ่งเหล่านี้มาบั่นทอนใจให้ทุกข์เพิ่ม

ญาติโยมที่มีภาระดูแลพ่อแม่ผู้ชราหรือญาติสนิทป่วยติดเตียง แม้จะอยู่ในบริบทที่ต่างจากพวกเรามาก แต่ก็เข้าถึงความสุขเล็กๆ เหล่านี้ได้ไม่ยากนัก เริ่มตั้งแต่ไม่นำทุกข์มาทับถมใจเพิ่มขึ้น ไม่มองว่าเป็นกรรมเก่าที่นำเรามาสู่จุดนี้ แต่มองเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่มีมาให้เราสร้างบุญใหญ่และได้ฝึกตน

ทั้งยังไม่ควรเก็บเรื่องร้ายๆ ในแต่ละวัน มาคิด มาปรุง มาสร้างความชอบธรรมให้ความโกรธความคับแค้นมีพลังเผาลนจิตใจเราเองเพิ่มขึ้น พยายามฝึกวางใจให้อยู่กับกิจที่กำลังทำ ทำเสร็จก็ปล่อยผ่านไปเพราะเราได้ทำดีที่สุดแล้ว

จากนั้นก็หาโอกาสเติมพลังจากธรรมชาติ อาจปลูกต้นไม้ เลี้ยงปลา หากิจกรรมเสริมที่ไม่สร้างภาระเพิ่ม มีมุมสงบไว้ผ่อนกายคลายใจ รวมทั้งหากัลยาณมิตรไว้ช่วยเติมพลัง ซึ่งเพื่อนแท้ในยุคนี้อาจเป็นได้ทั้งเพลงที่โปรด กีฬาที่ชอบ หรือเสียงธรรมะของครูบาอาจารย์ที่เราศรัทธา ซึ่งมาพบเราได้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ

เทศกาลแห่งความสุขปีใหม่นั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่การสร้างมุมมองใหม่ ฝึกวางใจให้ถูกเมื่อดูแลผู้ป่วย จะนำความสุขที่ยั่งยืนกว่ามาให้เรา แม้เรื่องราวอันโศกเศร้าอาจเกิดขึ้นในตอนจบ แต่จะพบว่าภายในเรานั้นเติบโตขึ้น มีจิตใจเข้มแข็งสงบเย็นไม่เว้นแม้ในยามเหนื่อยยาก

เป็นบุญของเราแล้ว ที่มีโอกาสเฝ้าดูแลพ่อแม่ญาติสนิทที่ติดเตียง เพราะนั่นคือของขวัญอันล้ำค่า ถ้าเรามองเป็น