พระอาพาธที่น่าสงสารมากกลุ่มหนึ่งคือท่านที่มีอาการทางสมอง ทางจิต หรือระบบประสาท ซึ่งจะมีอาการมากน้อยต่างกันไป ตั้งแต่มีพฤติกรรมบางอย่างแปลกๆ อาจเบลอ ซึม เพ้อ ฟุ้ง หรือหลุดเป็นพักๆ ไปจนถึงขั้นสื่อสารไม่รู้เรื่อง โวยวาย ดูแลตัวเองไม่ได้เลยก็มี

พระเหล่านี้ส่วนใหญ่มีอาการมาก่อนแล้ว ก่อนบวชอาจมียากินหรือยังมีอาการไม่ชัดเจนจึงได้รับอนุญาตให้บวช แต่ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ไม่ได้รับยาอย่างต่อเนื่อง หรือมีข้อวัตรปฏิบัติบางอย่างไม่เหมาะกับโรค เมื่ออยู่วัดนานไปอาการก็ชัดขึ้น มีจำนวนมากที่ต้องสึกออกไป แต่ที่ยังบวชอยู่ก็ไม่น้อย

พระเหล่านี้หากมีอาการรุนแรงจะเป็นภาระของผู้ดูแลมาก หลายครั้งเราจึงพบว่าถูกขัง หรือปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียวเนื้อตัวสกปรก แสดงอากัปกิริยาแปลกๆ เป็นที่น่าสมเพชสงสาร

พระวิโรจน์ (นามสมมติ) พระอาพาธรูปล่าสุดที่เรารับเข้ามาดูแลได้ประมาณ ๑ สัปดาห์ ก็เข้าข่ายมีปัญหาทางสมองด้วย แต่ยังดีที่มีอาการไปในทางสงบ ท่านเคลื่อนไหวและตอบสนองช้า ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน เราพบท่านครั้งแรกที่โรงพยาบาล นั่งนิ่งบนรถเข็น ตัวผอม หน้าดำ มีก้อนโตที่คอข้างขวาชัดเจน วันนั้นเราทราบเพียงชื่อวัดที่ท่านอยู่จากเด็กที่มาด้วย

เรื่องราวของท่านกลับมาถึงเราอีกครั้งโดยบังเอิญจากช่างที่มาซ่อมไฟฟ้าซึ่งบ้านอยู่ใกล้กับวัดท่าน จึงทำให้เรามีโอกาสได้ไปเยี่ยม พระที่พาไปพบแนะนำให้เรารออยู่ข้างนอก พักใหญ่ท่านเดินช้าๆ เกาะแขนพระรูปที่ไปตามออกมา จากสภาพร่างกาย การนุ่งห่ม และกลิ่นที่ติดตัวมา พอเดาได้ไม่ยากว่าท่านดูแลตัวเองไม่ได้และไม่มีใครดูแลท่าน เรานำของไปเยี่ยมและพูดคุยด้วยเพียงเล็กน้อยเพราะท่านไม่ค่อยตอบ จากนั้นจึงได้ไปเรียนเจ้าอาวาสว่าหากจะให้สันติภาวันช่วยดูแลเราก็ยินดี

เรารู้ข้อมูลส่วนตัวของท่านน้อยมากจากพระและโยมที่พามาส่ง ท่านอายุ ๕๒ ปี บวชมาได้ ๓ พรรษา เคยทำงานขับรถเมล์ มีลูก ๒ คน ซึ่งแยกไปมีครอบครัวแล้วและไม่ได้ติดต่อกับทางบ้านอีก ท่านมีภาวะความดันโลหิตสูงมานาน แต่ประมาณ ๓ เดือนที่ผ่านมา อ่อนแรงลงมาก และพบว่ามีก้อนโตที่ข้างลำคอด้วย (แต่ตรวจแล้วไม่ใช่เนื้อร้าย)

ด้วยเหตุที่เบลอไม่ค่อยรู้ตัวและไม่มีคนดูแลท่านจึงไม่ได้ฉันยา เนื้อตัวสกปรก ผิวหนังเต็มไปด้วยรอยแผลทั้งเก่าและใหม่ มีผื่นเชื้อรา ฝี และตุ่มคันกระจายทั่วตัว แต่ละวันจะมีโยมนำอาหารมาตั้งไว้หน้ากุฏิ ส่วนท่านจะออกมาฉันหรือไม่ ไม่มีใครสนใจ มีพระน้องชายซึ่งก็เพิ่งฟื้นตัวจากเส้นเลือดในสมองตีบ (จำอะไรไม่ค่อยได้/เดินยังไม่ปกติ) ดูอยู่ห่างๆ

การดูแลพระวิโรจน์แม้ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่อาการก็น่าห่วง โดยเฉพาะ ๒-๓ วันแรก ที่ความดันโลหิตสูงกว่า ๒๐๐/๑๐๐ มม.ปรอท หัวใจเต้นมากกว่า ๑๐๐ ครั้งต่อนาทีโดยตลอด แต่หลังจากให้ฉันยาอย่างต่อต่อเนื่อง ค่าก็เริ่มดีขึ้น ท่านจะฉันอาหารได้เองแต่ก็ใช้เวลานานมาก ต้องคอยระวังเมื่อท่านลุกขึ้นเดินเอง หรือนั่งโดยที่ไม่มีพนักพิงเพราะมีโอกาสล้มได้เสมอ

การได้ดูแลพระวิโรจน์ จึงเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้เรียนรู้การดูแลพระที่มีอาการทางสมองและประสาท เราหวังว่าหลังจากท่านได้รับการดูแลใกล้ชิดขึ้นที่สันติภาวัน ได้รับยาและพาไปพบแพทย์สม่ำเสมอ ท่านคงจะค่อยๆ ฟื้นตัว โดยเฉพาะในส่วนของอาการทางสมอง ซึ่งจะช่วยให้ท่านดูแลตัวเองได้ดีขึ้นจนสามารถกลับไปอยู่วัดเดิมได้ตามปกติต่อไป