สวัสดีตอนเช้า หลวงพ่อหลับฝันดีมั้ย
เสียงอันสดใสแจ่มชัดของหลวงพี่เจมส์ ดังขึ้นทำลายความสงัดยามเช้ามืดของทุกวัน
หลวงพี่เจมส์ เป็นพระจากวัดเล็กๆ ที่เชียงราย ติดต่อมาหาเราตั้งแต่ช่วงกลางพรรษาก่อน ว่าออกพรรษาแล้วอยากมาช่วยดูแลพระอาพาธที่สันติภาวัน จะรับมั้ย?
แน่นอนที่สุด “ยินดีอย่างยิ่งครับ” เพราะนี่คือสิ่งที่มีค่าและหาได้ยากยิ่งสำหรับภารกิจของเราที่นี่
หลวงพี่เจมส์มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมาแล้วไม่น้อย ท่านเคยทำงานเป็นผู้ช่วยเหลือผู้ป่วยในเนอร์สซิ่งโฮมเอกชนมาเป็นสิบปี เมื่อได้รู้จักสันติภาวัน ก็คิดว่าตัวเองน่าจะพอช่วยเหลือพระด้วยกันที่อาพาธได้
ด้วยประสบการณ์ที่มี ท่านจึงดูผ่อนคลาย สบายๆ เมื่อเข้าหาพระอาพาธ ไม่มีท่าทีรังเกียจสิ่งปฏิกูลต่างๆ เลย
แต่กระนั้นท่านก็ทำตัวอย่างผู้มาใหม่ พร้อมจะเรียนรู้ ปรับตัว รับคำแนะนำ และทำตามแนวทางที่เราใช้กันที่นี่
ท่านยังเป็นคนใฝ่รู้ เมื่อรู้ว่ามีการจัดอบรมพระคิลานุปัฏฐาก ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ท่านก็แข็งขันขอสมัครไปร่วมอบรมด้วย แม้จะเรียนมาน้อย อ่าน-เขียนไม่คล่องนัก แต่ท่านก็มุ่งมั่นเรียนรู้สำเร็จหลักสูตรมาแบบไม่อายใคร
หลวงพี่เจมส์ยังใช้ความขยันบวกกับความเป็นชาวบ้านคนดอย มาช่วยตัดแต่งต้นไม้ ดายหญ้า กวาดใบไม้ จนสันติภาวันดูโปร่งโล่งสบายตาขึ้น โดยไม่ลืมที่จะสอบถามก่อนว่าจะทำได้ไหม เพราะท่านเกรงว่าพวกเราที่นี่ จะเคร่งครัดวินัยกันจนไม่ให้ตัดไม้ดายหญ้า
หลวงพี่ไม่ได้คิดแค่จะช่วยงานเราไปเรื่อยๆ เท่านั้น ท่านยังคิดการใหญ่ มาปรึกษากับพวกเราว่า อยากทำที่ดูแลพระอาพาธแบบนี้ ที่บ้านเกิดของท่านบ้าง จะได้มั้ย?
บ้านของท่านเองตอนนี้ไม่ได้ใช้ทำอะไร มีพื้นที่เกือบ ๒ ไร่ อยู่ไม่ห่างจากตัวอำเภอ ท่านว่าแค่ปรับปรุงอาคารนิดหน่อยก็สามารถตั้งเตียง ใช้ดูแลพระอาพาธได้เลย ท่านพอมีเงินเก็บที่จะนำมาใช้ปรับปรุงแล้วด้วย
พวกเราต้องพยายามเบรคๆ ท่านไว้ มิใช่เพราะกลัวท่านจะไม่ได้อยู่ช่วยเรา แต่เพราะเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายที่จะลุยทำลำพังคนเดียว
ช่วงนี้ภาครัฐกำลังมีนโยบายสนับสนุนการทำกุฏิชีวาภิบาลในวัด หากรอสักนิด หลวงพี่ซึ่งมีทั้งความรู้ และมีใจอยากช่วยพระอาพาธเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว หากวัดแถวบ้านที่ทำโครงการนี้รู้เข้า เขาจะต้องรีบนิมนต์ให้ไปช่วยดูแลพระอาพาธแน่นอน ซึ่งง่ายกว่าไม่ต้องมีภาระเรื่องบริหารจัดการด้วย
ท่านเห็นด้วย แถมบอกความลับด้วยว่า ที่ผ่านมาพระที่เคยแวะมาเยี่ยมดูงานที่สันติภาวัน เสนอเบี้ยเลี้ยงให้ท่านเดือนละเป็นหมื่น เพื่อให้ไปช่วยดูแลพระอาพาธที่วัด แต่ท่านไม่รับเพราะอยากช่วยงานเราทีนี่…
สัปดาห์ที่แล้วนี้เอง หลวงพี่เจมส์มาปรึกษาว่าตอนนี้มีโครงการปฏิบัติธรรม เดินธุดงค์ และไปจำพรรษาที่อินเดีย น่าสนใจมั้ย?
แน่นอน ถ้าหลวงพี่สนใจก็น่าไป เป็นประสบการณ์ที่มีประโยชน์ และหาได้ไม่ง่ายนัก พร้อมทั้งช่วยหาโครงการคล้ายๆ กันให้ท่านได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นด้วย
และวันนี้หลวงพี่เจมส์ ก็ได้ร่ำลาพวกเราเดินทางกลับไปบ้านที่เชียงราย เพื่อสะสางภารกิจต่างๆ ก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการเดินทางไปจำพรรษาที่อินเดีย ท่านว่าเมื่อกลับมาแล้วน่าจะมีโอกาสได้มาช่วยงานที่สันติภาวันอีก
เรายินดีที่หลวงพี่ท่านตัดสินใจไปเรียนรู้ตามวิถีของพระ ซึ่งมีชีวิตที่อิสระในกรอบของธรรมวินัย
ถึงพระที่มีใจกรุณาเช่นท่านจะหาได้ยาก แต่เราก็ยังเชื่อเสมอว่ามีอยู่ไม่น้อย เพียงแต่เหตุปัจจัยยังไม่ได้หนุนพร้อม ให้เราได้มาทำบุญสร้างบารมีด้วยกันที่สันติภาวัน
แม้มีพระ ๒ รูปกับโยมจิตอาสา ก็ไม่มีปัญหาสำหรับเรา ในการดูแลพระอาพาธ ๔ รูปที่นี่
เพราะการดูแลพระอาพาธเป็นบุญใหญ่ “ความสุข” ย่อมผลที่จะได้รับโดยไม่ต้องร้องขอจากใคร