ความกังวลของทางวัดเมื่อจะต้องดูแลพระอาพาธติดเตียง คือไม่มีรู้ว่าจะดูแลอย่างไร และจะมีพระรูปใดเสียสละมาดูแลได้ทั้งวัน ทำให้ต้องปฏิเสธกับทางโรงพยาบาล หรือตามญาติให้ช่วยรับกลับไป

เคยมีพระโทรมาปรึกษาที่สันติภาวันว่า ถ้าจะต้องจ้างคนให้มาดูแลพระอาพาธที่วัดต้องจ่ายเดือนละเท่าไหร่ เพราะคิดว่าผู้ดูแลนั้นคงต้องอยู่ช่วยผู้ป่วยตลอดทั้งวัน

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลส่งกลับให้มาดูแลต่อนั้น ไม่ถึงขั้นต้องมีคนเฝ้าอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา หากจำเป็นต้องจ้างคนช่วยดูแลจริงๆ มาเพียงวันละ ๑-๒ ชั่วโมง ช่วยสรงน้ำ-ซักผ้า-ปัดกวาดที่พักก็พอ

ส่วนการป้อนข้าว ให้ยา เปลี่ยนผ้าอ้อมระหว่างวัน พระช่วยกันทำได้ไม่ยากนัก เวลาที่เหลือส่วนใหญ่ก็ปล่อยให้พระอาพาธได้พักผ่อน นอนฟังธรรมะ หรืออ่านหนังสือโดยไม่ต้องมีคนอยู่ด้วยได้

ส่วนปัญหาที่ไม่ค่อยมีพระเณรอยากดูแลพระอาพาธ มิได้อยู่ที่ความน่าเบื่อน่ารังเกียจในการดูแลเท่านั้น อีกส่วนที่สำคัญคือมักเป็นการผลักภาระให้ทำอยู่ตามลำพัง โดยไม่ใส่ใจช่วยเหลือท่านอย่างต่อเนื่องมากกว่า

การดูแลพระผู้ดูแลจึงสำคัญไม่น้อยไปกว่างานดูแลพระอาพาธโดยตรง หากสังคมเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญต่อพระผู้ดูแล ปัญหาการทอดทิ้งพระอาพาธจะลดลงไปมาก

การที่สันติภาวันดูแลพระอาพาธระยะท้ายมาได้ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะมีพระและญาติโยมเห็นคุณค่า ให้ความช่วยเหลือ ชื่นชมการทำงาน ส่งกำลังใจ และสนับสนุนพวกเรามาอย่างต่อเนื่อง

เคยมีพระอุปัฏฐากพระอาพาธติดเตียงรูปหนึ่งมาระบายให้พวกเราฟังว่า “หลวงพ่อท่านโยนให้ผมดูแลหลวงตาอยู่คนเดียว เราพระใหม่จะปฏิเสธยังไง จะไปขอให้พระเก่ามาช่วยก็ไม่กล้า แทบไม่มีเวลาไปรับกิจนิมนต์กับเขาเลย ตอนนี้แค่อยู่รอให้ถึงวันออกพรรษเท่านั้นแหละ”

ความรู้สึกว่าตนได้ทำงานที่มีคุณค่า มีคนรับรู้และชื่นชม มิได้ถูกทอดทิ้งให้แบกภาระอยู่คนเดียว จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่จะทำให้พระที่ดูแลพระอาพาธอยู่ขณะนี้ มีพลังทำหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง

พระพุทธองค์ก็ทรงเห็นความสำคัญของพระผู้ดูแล ได้ทรงแสดงเรื่องนี้ไว้ในรูปพระวินัยหลายข้อ เช่น อาหารที่เป็นเดนจากภิกษุไข้ มีความพิเศษที่ภิกษุฉันได้ต่างจากอาหารทั่วไป ทรงยกเว้นข้อวัตรบางข้อให้พระที่อุปัฏฐากภิกษุไข้ไม่ต้องปฏิบัติ และให้สิทธิพิเศษในการได้รับบริขารของพระอาพาธที่มรณภาพก่อนพระรูปอื่น เป็นต้น

พระผู้ปกครองวัดและญาติโยมที่ประสงค์จะสนับสนุนให้แต่ละวัดสามารถดูแลพระอาพาธของตน จึงควรให้ความสำคัญต่อการดูแลพระผู้ดูแลไปพร้อมๆ กันด้วย

สันติภาวันในฐานะผู้ดูแลพระอาพาธอยู่เช่นกัน จึงขอมีส่วนร่วมปาวรณาตัวต่อพระที่กำลังดูแลพระอาพาธอยู่ด้วย หากพระคุณเจ้าติดขัดมีข้อจำกัดสิ่งใดในการดูแล สามารถติดต่อมาที่สันติภาวันได้ทุกเมื่อ เราพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือท่านเต็มกำลัง

สันติภาวันขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนให้ทุกวัด พร้อมเป็นที่พำนักของพระในทุกจังหวะของชีวิตท่าน