ชาวพุทธเราเชื่อว่า “กรรมเก่า” คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเจ็บป่วย โดยเฉพาะเมื่อโรคนั้นเป็นโรคที่พบได้น้อย รักษาได้ยาก หรือทำให้เจ็บปวดมีทุกขเวนามาก ในบางครั้งก็อาจเป็นเพียงโรคง่ายๆ แต่กลับรักษาไม่หายสักที

กรรมเก่ายังอาจนำเราไปหาหมอผิดที่ พบหมอผิดคน นำไปสู่ความผิดพลาดในการรักษา นำมาซึ่งความทุกข์ เจ็บปวด สูญเสียทรัพย์มากมาย ทั้งกรรมเก่ายังมีกำหนดว่าจะมีผู้ดูแลช่วยเหลือเราเพียงใดด้วย

ดังนั้นเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมา นอกจากจะขวนขวายไปพบหมอหายารักษาตัว ชาวพุทธก็มักทำบุญใส่บาตร เข้าหาพระ รักษาศีล สวดมนต์ ด้วยหวังบรรเทาผลอกุศลกรรมในอดีต หรือให้บุญใหม่ส่งผลดีได้พบหมอที่เชี่ยวชาญในการรักษา ได้รับยาที่ถูกกับโรค ฯลฯ ทำให้การเจ็บป่วยหายไปในที่สุด

มีหลายครั้งทีเดียวในขณะพวกเราที่สันติภาวันดูแลพระอาพาธอยู่ แล้วทำให้นึกถึงเรื่องกรรมเก่าขึ้นมา ในจำนวนนั้นหลวงพ่อสมบัติ (นามสมมุติ) ดูจะเป็นรูปที่ทำให้เรานึกถึงเรื่องกรรมเก่าบ่อยมาก

เรารู้จักท่านน้อยมากทั้งประวัติส่วนตัวและภูมิหลังความเจ็บป่วย ทราบแต่ว่าท่านเคยเป็นเจ้าอาวาสอยู่แถบอีสาน แต่ป่วยหนักถูกส่งตัวกลับโรงพยาบาลที่บ้านเกิดในช่วงโควิดระบาด หลังจากรักษาตัวอยู่หลายเดือนจนจะให้กลับ (ในสภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย) แต่ทางวัดก็ไม่รับ ตามญาติก็ไม่พบ จึงถูกส่งตัวไปที่วัดหนึ่งที่มีพระอาสาช่วยดูแลท่านให้

แต่กรรมยังซ้ำเติมให้ทั้งพระที่ดูแลและตัวท่านติดโควิด พระผู้ดูแลอาการแย่กว่าดูแลท่านต่อไม่ไหว จนเป็นเหตุให้ท่านได้มาอยู่กับเรา

เรารับท่านจากโรงพยาบาลด้วยสภาพผอมแห้ง ตัวงอ ข้อติดเคลื่อนไหวไม่ได้ ยกเว้นข้อมือและคอที่ขยับได้เล็กน้อย ผิวหนังเต็มไปด้วยตุ่มน้ำเหลืองน้อยใหญ่ มีแผลกดทับที่ก้น ๓ จุด ถูกเจาะคอ และต้องให้อาหารทางสายยาง ส่งท่านมาพร้อมกับยาอีกถุงใหญ่ อุปกรณ์ทำแผล และสายดูดเสมหะ

ด้วยสภาพร่างกายเช่นนี้ แม้จะสื่อสารไม่ได้ ไม่แสดงอาการเจ็บปวดใดๆ ให้เห็น แต่ก็เข้าใจได้ถึงความทุกข์ที่ท่านได้รับ

ตลอด ๔ เดือนกว่าที่อยู่ด้วยกัน เราพยายามช่วยเหลือท่านเท่าที่พอจะทำได้ แน่นอนว่าการสื่อสารและอาการข้อติดนั้นฟื้นคืนไม่ได้ แต่ท่านก็ไม่มีแผลกดทับแล้ว ขับถ่ายเป็นปกติแทบทุกวัน รวมทั้งไม่ต้องใช้เครื่องดูดเสมหะอีกเลย ส่วนตุ่มน้ำเหลืองก็ลดลงมาก บางครั้งไม่พบเป็นสัปดาห์ (แต่ก็ขึ้นมาใหม่ ไม่หายขาด)

แต่กระนั้นท่านก็ยังดูน่าสงสาร เหมือนมีลมหายใจอยู่ไปวันๆ เพราะอาหารทางสายยางซึ่งท่านปฏิเสธไม่ได้ หางตาท่านจะมีน้ำตาไหลเป็นทางให้เห็นทุกวัน จนหลวงพี่ฌอน พระฝรั่งที่อาสามาเป็นผู้ดูแลอยู่ด้วยกันที่นี่ ถึงกับเปรยว่า “หลวงพ่อทำกรรมอะไรไว้น้อ… ถึงมาเป็นแบบนี้”

อดีตชาตินั้นเป็นเรื่องพ้นวิสัยที่คนธรรมดาจะรู้ชัดได้ หากเราเข้าใจหลักกรรมคลาดเคลื่อน หรือมีท่าทีต่อกรรมเก่าไม่ถูกต้อง จะยิ่งส่งผลเสียไม่น้อย อาจทำให้ปล่อยปละละเลยจนเสียโอกาสในการรักษาให้หายแต่เนิ่นๆ ไปจนถึงถูกหลอกให้หลงใหลหมดเงินไปกับการแก้กรรมสะเดาะเคราะห์มากมาย

แต่หากมองถูก มองเป็น ความเชื่อเรื่องกรรมก็มีข้อดี ช่วยให้ผู้ป่วยและญาติยอมรับการเจ็บป่วยนั้นได้ง่ายขึ้น ช่วยให้เผื่อใจในผลการรักษาว่าอาจมิได้ออกมาในด้านที่หวังเสมอไป และทำให้มีที่พึ่งทางใจหลังจากได้ทำบุญให้ทาน

กรรมเก่าในพุทธศาสนานั้นท่านมิได้มุ่งที่กรรมในอดีตชาติเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการใช้ชีวิตนี้ในอดีตที่ผ่านมาด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นอดีตแบบใด เราก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องใส่ใจกับอดีตมากนัก โดยเฉพาะอดีตที่ข้ามภพข้ามชาติที่มักนำไปสู่ความงมงายและถูกหลอกลวงในที่สุด

เพราะไม่ว่าอดีตจะเป็นอย่างไรพุทธศาสนามีท่าทีชัดเจนว่า เราต้องไม่จำนนต่อผลของกรรมที่กำลังเกิดขึ้น ท่านให้ตั้งสติ ใช้ปัญญา และมีความเพียร ในการสร้างกรรมใหม่ ในกรณีนี้คือใส่ใจเยียวยารักษากายตามความเหมาะสม และใช้ธรรมะรักษาใจตนให้สงบเย็นอยู่เสมอ

เราไม่รู้หรอกว่าหลวงพ่อสมบัติทำกรรมอะไรไว้ รู้แต่ว่าหลวงพ่อก็มีบุญไม่น้อยที่ได้มาอยู่กับเราที่สันติภาวัน และที่สำคัญยิ่งกว่าคือพวกเรามีบุญที่ได้ดูแลท่านในขณะนี้ และมีหน้าที่ดูแลให้ดีที่สุดต่อไปด้วยใจสงบเย็น