มีพระรูปหนึ่งติดต่อขอมาเป็นจิตอาสาที่สันติภาวัน ท่านอายุ ๖๐ กว่าแล้ว แต่เพิ่งบวชได้ประมาณ ๓ เดือน ก่อนบวชเคยดูแลพี่สาวที่เป็นมะเร็งจนกระทั่งเสียชีวิต… แน่นอนว่าเรายินดีอย่างยิ่งที่จะได้ผู้ร่วมทีม พระที่สนใจทำงานอาสาลักษณะนี้หาได้ไม่ง่ายนัก จึงนัดหมายโยมให้ช่วยรับท่านมาส่ง
เมื่อได้พบกัน รูปการณ์ดูจะไม่เป็นไปตามที่คาดนัก แม้อายุเพียง ๖๐ ต้นๆ ไม่มีโรคประจำตัวที่รุนแรง แต่สุขภาพท่านไม่แข็งแรงนัก เดินบิณฑบาตด้วยกันไม่ไหว โดยเฉพาะเรื่องสายตาที่ท่านกังวลมาก ท่านว่าไม่มีทางรักษาแล้วอาจจะบอดสนิทในไม่ช้านี้ ดูไปคล้ายกับท่านจะมาหาที่พักพิงยามอาการหนักมากกว่าอยากมาเป็นจิตอาสา ส่วนเราแม้จะไม่ได้ตามหวังแต่ก็ตั้งใจว่าจะดูแลกันตามสภาพ เพราะช่วงนี้ก็ยังไม่มีพระอาพาธระยะท้ายมาให้ดูแล
แต่ท่านคงประเมินแล้วว่าที่นี่คงไม่เหมาะกับท่านนัก ไม่ว่าจะในฐานะพระจิตอาสาหรือว่าพระอาพาธให้เราดูแล ท่านพักอยู่กับเราเพียง ๒ คืน ก็ขอลากลับ บอกว่าจะไปอยู่วัดใกล้ๆ บ้านญาติ จะขอปลูกกุฏิหลังเล็กๆ อยู่ จ้างคนทำกับข้าวส่งวันละมื้อ ให้มาทำความสะอาดกุฏิสัปดาห์ละครั้งก็คงอยู่ได้ (ซึ่งดูเหมือนจะไม่ตรงกับวิถีชีวิตของพระนัก) แต่หลังจากนั้นอีก ๒ วัน ท่านก็ส่งข่าวมาบอกว่าลาสิกขาแล้วเพราะไม่สะดวกในการดูแลสุขภาพ
มีคนไม่น้อยที่วางแผนไว้ว่า “ถ้าหมดภาระแล้ว จะออกบวชฝากชีวิตไว้ในผ้าเหลือง” ในทางสังคมผู้คนก็อนุโมทนามิได้รังเกียจ ด้านธรรมวินัยก็ไม่มีข้อห้าม หากอุปัชฌาย์คณะสงฆ์เห็นสมควรก็บวชได้ ในแง่การปฏิบัติหากตั้งใจจริง ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมาร่วมกับการได้วางเรื่องวุ่นวายภายในครอบครัว ก็มีส่วนช่วยให้ก้าวหน้าในทางธรรมได้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีแต่เรื่องดีๆ หลังบวช
แต่ในความเป็นจริงอาจมิได้ราบรื่นเช่นนั้น ปัญหาสำคัญคือสุขภาพที่ร่วงโรยลงเป็นลำดับ การไปโรงพยาบาลรักษาตัวก็ไม่สะดวกเหมือนตอนเป็นโยม ที่สำคัญคือเมื่อป่วยหนักติดวัดติดเตียงดูแลตัวเองไม่ได้แล้ว ยากมากที่จะหาคนในวัดช่วยดูแลอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ในอดีตหลวงปู่หลวงตาได้รับการดูแลอย่างดี เพราะท่านเป็นพระมหาเถระบวชมานาน เป็นครูบาอาจารย์ให้พระรุ่นลูกหลานรู้สึกเป็นบุญที่ได้ดูแลตอบแทนท่าน ส่วนผู้สูงวัยที่เคยบวชเรียนมามาก ก็มักจะเข้าวัดในฐานะอุบาสกเป็นมัคนายกช่วยนำทำพิธีสงฆ์ ในวันธรรมดาก็อยู่บ้านมีลูกหลานดูแล แต่หากกลับไปบวชเป็นพระใหม่แล้วเกิดป่วยติดเตียงจนต้องให้พระที่เป็นภันเตบวชมาก่อนคอยดูแล ความรู้สึกแย่ๆ คงเกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงญาติโยมที่พบเห็นด้วย
การปฏิบัติธรรมจึงไม่ควรรอไว้จนถึงเกษียณ จะยิ่งลำบากยิ่งขึ้นถ้าคิดไปบวชโดยไม่ได้เตรียมแผนจัดการเรื่องสุขภาพปั้นปลายของตนไว้ให้ดี แม้พระที่ท่านบวชมานานถ้าไม่ได้เตรียมการเรื่องนี้ ก็ยังมีโอกาสเดือดร้อนไร้คนดูแลเช่นกัน