หลายครั้ง พระอาพาธที่สันติภาวันรับเข้ามาดูแล ถูกส่งมาเมื่ออาการท่านทรุดมากแล้ว บางท่านฉันไม่ได้ สื่อสารไม่ได้ หรือถึงขั้นสลึมสลือ ไม่มีสติ ไม่รู้สึกตัวแล้วก็มี

เมื่ออยู่ภาพเช่นนี้ สิ่งที่พวกเราพอทำได้ คือช่วยดูแลร่างกายของท่าน ให้สบายที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช็ดตัวทาแป้งไม่ให้เหนอะหนะ ให้ฉันอาหาร ฉันน้ำ และให้ยาเท่าที่พอจะรับได้เท่านั้น

แผลกดทับน้อยใหญ่ก็เพียงแค่เช็ดด้วยน้ำเกลือ เปลี่ยนผ้าปิดแผล จุดไหนที่ต้องพลิกตัวทำให้ท่านเจ็บปวดมาก ก็ปล่อยผ่านไม่ทำ

ส่วนด้านจิตใจทำได้เพียงสัมผัสมือพูดคุยกับท่านเสมือนว่าท่านฟังเราอยู่ แล้วเปิดเทปธรรมะ หรือเสียงสวดมนต์เบาๆ คลอไว้ข้างหูเท่านั้น

การได้ดูแลกันตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่ทรุดมาก เราจะมีโอกาสช่วยเหลือท่านได้มากกว่านี้ ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ท่านจะพอทราบว่าสภาพร่างกายท่านต่อแต่นี้ไปจะเป็นอย่างไร เราจะดูแลท่านอย่างไร และท่านจะได้รับคำแนะนำว่าควรวางใจอย่างไรด้วย

หากท่านยังมีภาระติดค้าง มีเรื่องราวที่ยังต้องจัดการ ก็จะมีโอกาสได้สะสางให้เรียบร้อย หรือหากพ้นวิสัยที่จะจัดการได้ ก็จะได้เตรียมตัดใจปล่อยวางเสียก่อน

ยิ่งในเรื่องของธรรมะ จะได้มีเวลาพูดคุยถึงแนวทางปฏิบัติของท่าน ครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพ ซึ่งจะถูกนำมาใช้เป็นแนวทางนำจิตใจท่านในช่วงท้ายๆ ของชีวิต

สำหรับพระที่สละเรือนไม่มีญาติขาดคนดูแลยามเจ็บหนัก การหาที่พักสำหรับช่วงท้ายของชีวิต จึงเป็นสิ่งที่ควรเตรียมไว้แต่เนิ่นๆ อย่างน้อยเมื่อรู้ว่าเป็นโรคร้ายโอกาสหายขาดยาก ควรเริ่มสอบถามหาข้อมูลไว้ก่อน ว่ามีที่ไหนบ้างที่จะพอรับดูแลได้ มีเงื่อนไขในการเข้าอยู่อย่างไร

หากยังแข็งแรงดีและมีเวลาพอ การเข้าไปเป็นจิตอาสา ไปเรียนรู้วิธีการดูแลพระอาพาธระยะท้าย ณ ที่นั้นๆ ด้วยตนเอง จะยิ่งช่วยให้เตรียมตัวเตรียมใจได้ดีขึ้น การได้มีประสบการณ์จริงในสถานที่นั้น จะช่วยสร้างความมั่นใจว่าควรเลือกใช้เป็นที่ฝากชีวิตช่วงท้ายของตนหรือไม่ด้วย

สำหรับที่สันติภาวัน หากมีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับอาการอาพาธ เรามักแจ้งผลว่าสามารถรับดูแลได้หรือไม่ภายวันเดียว ยิ่งถ้าเป็นพระอาพาธระยะท้ายที่ยุติการรักษาแล้วเรายังไม่เคยปฏิเสธเลย

เว้นแต่ท่านที่ยังพอทำกิจช่วยเหลือตัวเองได้อยู่ เรามักแนะนำให้พักอยู่ที่เดิมไปเรื่อยๆ ก่อน ถ้าต้องการรักษาด้วยสมุนไพร หรือวิธีแบบทางเลือกจะได้ขวนขวายใช้ให้เต็มที่ ต่อเมื่อเริ่มดูแลตัวเองไม่ไหว อยู่ตามลำพังไม่ได้ หรือรักษาด้วยทางเลือกแล้วไม่ดีขึ้น ค่อยย้ายไปให้สันติภาวันดูแล

ปัจจุบันเริ่มมีกุฏิชีวาภิบาลที่เปิดให้การดูแลพระอาพาธระยะท้ายมากขึ้น การได้เตรียมพูดคุยหาข้อมูลจากหลายๆ แห่ง จะช่วยได้พักในสถานทีที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละท่านยิ่งขึ้น

จึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไม่ใช่ลางร้าย แต่คือความไม่ประมาท ที่จะเตรียมตัว เตรียมสถานที่เพื่อช่วงสุดท้ายของชีวิตไว้เสียตั้งแต่วันนี้ เพราะไม่มีใครรู้ชัดว่า ความตายจะพุ่งเข้ามาหาเราเมื่อไหร่ และอย่างไร