เป็นข้อมูลที่น่าตกใจเมื่อรับทราบข้อมูลจากหลวงพี่รูปหนึ่งที่เป็นมะเร็งปอด คราวไปเยี่ยมพระอาพาธในหอผู้ป่วยครั้งก่อน ว่าหากโรงพยาบาลให้กลับไปรักษาตัวต่อที่วัด เกรงว่าจะถูกชาวบ้านจับสึก!!!

ท่านเล่าว่าชาวบ้านในย่านวัดที่ท่านอยู่ เมื่อพบว่ามีพระอาพาธจนไม่สามารถที่จะประกอบศาสนกิจได้ก็จะจับท่านสึก ท่านเห็นชัดๆ ด้วยตนเองมาแล้ว ๓ ราย ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ก็เพิ่งจับหลวงปู่อายุ ๙๒ รูปหนึ่งสึก

สำหรับท่านเองหลังจากเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลครั้งนี้ ก็ได้ทราบว่าชาวบ้านได้มีการจัดประชุมกัน ซึ่งท่านกำลังหนักใจว่าอาจเป็นการหารือเพื่อจับท่านสึก จึงได้ฝากบอกคนที่มาเยี่ยมไปแล้วว่า ไม่ว่าจะอย่างไรท่านก็จะไม่ยอมสึก พร้อมทั้งกำลังเตรียมหาที่นอนพักรักษาตัวที่วัดอื่นไว้ด้วย

เรื่องการสึกพระอาพาธเท่าที่เคยรับรู้มา มักเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลที่ต้องทำเพราะเสร็จสิ้นขั้นตอนการรักษาแล้วต้องให้ท่านกลับ แต่ไม่สามารถหาสถานที่ส่งกลับได้ จำเป็นต้องส่งให้สังคมสงเคราะห์จังหวัดรับไปดูแล ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวไม่มีนโยบายรับดูแลพระจึงจำเป็นต้องสึกท่านก่อน

การบวชพระในทัศนะคนอีสานถือว่าเป็นบุญใหญ่ การสึกพระที่ไม่ได้ทำความผิดหรือการหาเล่ห์ทำให้พระต้องสึกหรือแค่รบกวนให้ท่านไม่สามารถศึกษาปฏิบัติธรรมได้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ เป็นบาปหนัก ยิ่งเป็นการกระทำต่อพระอาพาธที่ทุกคนควรเข้าไปช่วยอุปัฏฐากดูแลแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เหตุการณ์นี้จึงถือว่าเป็นข่าวที่น่าสะเทือนใจ

แม้ขณะนี้จะเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นจากพระฝ่ายเดียว แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่สมควรตรวจสอบหาความชัดเจน ชาวบ้านอาจทำด้วยความปรารถนาดี เช่น เพื่อความสะดวกในการดูแลท่าน จะได้ไม่เป็นบาปกับโยมผู้หญิงที่มาดูแล ทำให้พระไม่ต้องกังวลกับอาบัติเมื่อโยมปรนนิบัติไม่ถูกต้อง แต่นั่นก็ยังดูไม่ใช่ข้ออ้างที่มีน้ำหนักพอถึงขั้นที่จะสึกพระได้ ยิ่งหากถึงขั้นให้สึกเพียงเพราะท่านไม่มีประโยชน์ ไม่สามารถทำกิจให้กับชุมชนได้ คงเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก

แม้ในทางพระวินัย ไม่มีใครสามารถสึกพระได้ หากเจ้าตัวไม่ยินยอม ไม่มีเจตนาเปล่งวาจากล่าวคำลาสิกขาด้วยตนเอง แต่ในสภาพที่ท่านเป็นผู้ป่วยหนักที่แค่กิจส่วนตัวก็ทำไม่ได้ ย่อมขาดกำลังและอำนาจในการต่อรอง เรื่องถูกจับสึกแบบนี้ย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน

ในวันนั้น เราทำได้เพียงแค่ให้คำยืนยันกับหลวงพี่ท่านนั้นว่า หากช่วงท้ายไม่มีใครดูแลท่าน หรือเมื่อไม่สะดวกที่จะอยู่ที่วัดเดิม ก็ขอนิมนต์มาพักที่สันติภาวันได้เลย (ภาพประกอบ…จากอินเตอร์เน็ต)