แม้คำขอบคุณจะไม่ใช่สิ่งที่พวกเราหวังว่าจะได้รับเมื่ออาสาเข้ามาดูแลพระอาพาธ แต่เมื่อได้รับมาก็สร้างความปลาบปลื้มอิ่มใจให้พวกเราไม่น้อย
จะว่าไปพวกเราไม่ค่อยคุ้นเคยกับคำขอบคุณมากนัก โดยเฉพาะจากผู้ที่เราให้ความช่วยเหลือโดยตรง ส่วนใหญ่เราจะเป็นคำชื่นชม อนุโมทนา และกำลังใจจากญาติโยมที่ทราบข่าวการทำงานของสันติภาวันมากกว่า
การที่ไม่ค่อยได้รับคำขอบคุณนั้น มิได้แปลว่าผู้ที่เราให้ความช่วยเหลือไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เราหยิบยื่นให้ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะร่างกายท่านอยู่ในสภาพที่ไม่รับรู้หรือไม่สามารถสื่อสารบอกเราได้
สำหรับด้านผู้ที่ส่งท่านมา หากเป็นโรงพยาบาล ก็มักขอบคุณตอนที่เราตอบรับดูแลพระอาพาธรูปนั้นๆ แต่เมื่อจัดส่งท่านเรียบร้อยแล้วก็มักจะไม่ได้ติดต่อกันอีก
ส่วนญาติของท่าน เรามักไม่ค่อยได้ติดต่อเพราะพระที่ถูกส่งมาส่วนใหญ่ ท่านจะไม่มีญาติ หรือห่างเหินกับญาติมานาน ถ้ายังพอติดต่อได้เรามักจะติดต่อเมื่อจำเป็น เช่น ท่านอาการทรุดลง หรือมรณภาพแล้วเท่านั้น
หากพระอาพาธรูปนั้นถูกส่งตัวมาจากวัด เมื่อรับมาแล้วก็แทบจะไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
เมื่อเราไม่คาดหวัง การไม่ได้รับคำขอบคุณจึงไม่ค่อยมีผลต่อเรานัก แต่กระนั้นเมื่อมีคำขอบคุณผ่านเข้ามา ก็มีหลายครั้งที่กระทบใจเรา จนอยากแบ่งปันให้ทุกท่านได้ร่วมรับรู้ถึงคุณค่าของงานดูแลพระอาพาธ
ที่ไม่เฉพาะพวกเราที่สันติภาวันเท่านั้นที่ทำได้ แต่ทุกวัดทุกชุมชนรอบวัดก็สามารถช่วยกันทำงานอันทรงคุณค่าที่พระศาสดาฝากไว้ได้เช่นกัน
แล้วท่านจะมีโอกาสได้รับความรู้สึกอิ่มใจเช่นเดียวกับเรา ที่ได้รับคำขอบคุณข้างล่างนี้ จากญาติของพระอาพาธที่เราดูแล
กราบนมัสการ พระอาจารย์
โยมพี่พระ*** ซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ในความอนุเคราะห์ของพระอาจารย์และของคณะพระภิกษุผู้ดูแลทุกรูป ที่ได้ตระหนักเล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นในการให้ความช่วยเหลือพระภิกษุอาพาธระยะสุดท้ายของชีวิต
พระอาจารย์และพระคณะดูแลทุกรูปเสียสละเป็นอย่างยิ่งอย่างยากที่จะหาได้ในสังคมปัจจุบันนี้
กับงานที่ทั้งหนักอึ้งและยากลำบากยิ่งนี้ ไม่เพียงแต่ได้ช่วยเหลือพระภิกษุอาพาธเท่านั้น แต่ยังถือว่าได้ช่วยเหลือญาติพี่น้อง สมาชิกทุกคนในครอบครัวของพระที่อาพาธด้วย
สุดท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์และพระคณะผู้ดูแลทุกท่านเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย
กราบขอบพระคุณนะคะ กราบนมัสการลาค่ะ