ในเมื่อคนเรายังไม่สามารถเอาชนะความตายได้ การพยายามใช้ชีวิตให้คุ้มค่า มีคุณค่า รวมทั้งหันมาทำความรู้จัก เตรียมพร้อม และยอมรับความตาย ดูจะเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาความทุกข์จากความกลัวตายลงได้อย่างดี

สำหรับผู้ที่ไม่ได้เตรียมตัวเผชิญกับความตายไว้อย่างจริงจัง คิดเอาเองว่า ไม่กลัวตาย พร้อมตาย เมื่อถึงเวลาจะสามารถผ่านพ้นได้ไม่ยาก แต่เมื่อใกล้จะสิ้นลมขึ้นมาจริงๆ พบว่าหลายคนมีภาวะตระหนก หวาดกลัว หวั่นไหว ในระดับต่างๆ กัน เพราะสิ่งที่ตนคาดหวังไว้นั้นไม่เป็นไปดั่งคิด

หลวงพ่อรุ่งเรือง (นามสมมติ) เมื่อทราบชัดว่าโรคที่ท่านเป็นไม่มีทางรักษาให้หาย มีแนวโน้มว่าจะทรุดลงและมรณภาพในอีกไม่นาน ท่านแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าอยากไปมรณภาพที่วัด แต่เนื่องจากไม่มีวัดใดพร้อมรับไปดูแล ท่านจึงถูกส่งตัวมาที่สันติภาวัน

ช่วงแรกที่คุยกัน ดูเหมือนท่านมีความชัดเจน วางใจ ไม่มีอะไรกังวล พร้อมจะใช้ชีวิตไปถึงช่วงสุดท้ายกับเราที่นี่ ไม่เสียทีที่บวชมาถึง ๓๖ พรรษา แต่พออาการทรุดลง ฉันอาหารไม่ได้ มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิต ท่านกลับเปลี่ยนใจ บอกว่าอยากไปสิ้นลมใกล้ๆ ญาติพี่น้อง ขอไปอยู่กับพระพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาส โดยจะให้หลานมารับ

แน่นอนว่าในเมื่อเป็นความปรารถนาสุดท้าย และเป็นสิ่งที่เราพอช่วยเกื้อหนุนท่านได้ เราจึงประสานให้ทางญาติมารับกลับ พร้อมทั้งกำชับว่าท่านใกล้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว อาการจะทรุดลงเรื่อยๆ จนมรณภาพ

เราทราบหลังจากที่ท่านมรณภาพแล้ว ว่าหลังจากออกจากสันติภาวันท่านไม่ได้ไปอยู่วัดพี่ชาย แต่ได้ไปอยู่กับญาติคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ได้เพียง ๒ วัน อาการท่านก็ทรุดหนัก ญาติตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงนำท่านส่งโรงพยาบาล อำเภอ แล้วรีเฟอร์ต่อโรงพยาบาลจังหวัด ทำให้ท่านต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตลอดทั้งเดือนในห้องไอซียู จนสิ้นลม (ถูกห้ามเยี่ยมในช่วงโควิดระบาด)

เพราะความรู้สึกหวั่นไหวเมื่อความตายใกล้มาถึง ชนิดที่พลังแห่งพระรัตนตรัยและบุญกุศลทั้งหลายที่เรายกมาพูดคุย ไม่สามารถน้อมนำให้สงบลงได้ ท่านยังคงเลือกที่จะกลับไปอยู่ใกล้ๆ ญาติ

ในขณะที่ญาติเองก็หวั่นไหวทำอะไรไม่ถูกเมื่อท่านอาการทรุดลง จึงนำส่งโรงพยาบาล นำท่านกลับไปยังจุดที่ท่านไม่ต้องการอยู่ตั้งแต่แรก จนนำสู่การมรณภาพไปอย่างโดดเดี่ยวในที่สุด

อีกกรณีหนึ่ง หลวงพ่อสุดใจ (นามสมมติ) แพทย์พบว่ามะเร็งได้แพร่กระจายไปหลายจุด ญาติบอกชัดว่าท่านไม่อยากอยู่โรงพยาบาล เคยถูกสอดท่อ ใส่สาย มัดแขนไว้กับเตียงเพื่อความปลอดภัย ท่านดิ้นรนขัดขืนอย่างมาก

จากสภาพโรคของท่าน ทีมผู้ดูแลได้พูดคุยกับญาติชัดเจนแล้วว่า ควรให้การดูแลแบบประคับประคอง ญาติจึงได้ส่งท่านมาให้เราช่วยดูแลไปจนกว่าท่านจะสิ้นอายุขัย

แต่เมื่ออาการท่านทรุดลง เราได้โทรแจ้งให้ญาติทราบสถานการณ์และเตรียมใจแต่เนิ่นๆ กลับได้รับการขอร้องให้ช่วยพาท่านส่งโรงพยาบาล จนเราต้องอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น หากพาท่านไปโรงพยาบาล ชวนให้ญาติได้ทบทวนถึงสิ่งที่เคยพูดคุยกันเมื่อครั้งรับท่านเข้ามา จนญาติเข้าใจให้เราดูแลท่านต่อไป

การเตรียมพร้อมซ้อมตาย จึงมิใช่เพียงแค่ได้รับฟัง อ่าน คิด วางแผน หรือคาดการณ์ ว่าจะทำอะไร ทำอย่างไร เมื่อถึงเวลาของเราเท่านั้น

แต่ต้องลงมือศึกษา คิด และทำอย่างจริงจัง ตั้งแต่วางแผนชีวิตช่วงท้าย มอบหมายผู้เกี่ยวข้อง เขียนความต้องการให้ชัด และฝึกหัดวางใจให้คุ้นเคยต่อความพลัดพรากสูญเสีย รวมทั้งความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงก่อนสิ้นลม

สำหรับปุถุชนความหวั่นไหวเมื่อใกล้ความตาย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา มีเพียงสติและปัญญาเท่านั้น ที่จะเป็นหลักยึด ให้ระลึกได้ นำสิ่งที่เตรียมการไว้มาใช้อย่างเหมาะสม

ว่าแต่ตอนนี้ เราได้เตรียมการ เตรียมสติ-ปัญญา ไว้พร้อมแล้วเพียงใด