ญาติโยมอาจเคยได้ยินพระบางรูปพูดว่า เมื่อพระอาพาธหรือเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในความดูแลของแพทย์แล้ว ท่านยกเว้นให้ดูแลรักษาตัวอย่างไรก็ได้ไม่มีอาบัติ… ทำให้พลอยคิดว่าสามารถปฏิบัติต่อพระเช่นเดียวกับผู้ป่วยทั่วไปได้ ความจริงแล้วเป็นความเข้าใจผิดของพระ
มีเพียงโรคเดียวที่ท่านยกเว้นให้พระทำสิ่งต่างๆ แล้วไม่เป็นอาบัติเลย คือ “เสียสติหรือบ้า” ชนิดที่ทำอะไรไปโดยไม่มีสติสัมปชัญญะเลย (สำหรับพระที่ไม่บ้า อาจมีบางเรื่องชั่วขณะที่ทำนั้นขาดสติคุมตนเองไม่ได้ ท่านยกเว้นไม่ปรับอาบัติ แต่ไม่ใช่ทุกเรื่อง) แต่หากยังมีสติสมบูรณ์อยู่ เฉพาะเรื่องที่ท่านอนุญาตให้พระอาพาธทำได้เท่านั้น จึงจะไม่ถือว่าเป็นอาบัติ
จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยที่ญาติโยมจะดูแลพระอาพาธได้อย่างถูกต้องไม่ทำให้ท่านอาบัติ ยิ่งไปกว่านั้นความเคร่งครัดของพระแต่ละรูป วัตรปฏิบัติในแต่ละสำนักที่ต่างกันไป ยิ่งทำให้ดูแลยากยิ่งขึ้น วิธีที่ง่ายที่สุดเมื่อญาติโยมต้องอุปัฏฐากพระอาพาธคือ สอบถามท่านว่าจะทำแบบนั้นแบบนี้ได้ไหม
หรือหากโยมมีศรัทธามากก็สามารถเอ่ยปากปวารณาต่อพระอาพาธได้ เช่นกล่าวว่า “ช่วงที่หลวงพ่ออาพาธนี้โยมขอปวารณานะครับ หากต้องการสิ่งใดที่เหมาะแก่สมณสารูปบอกโยมได้เลย” พระก็จะเอ่ยปากบอก/ขอสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น แต่หากพิจารณาแล้วว่าพระเอ่ยปากขอสิ่งที่ไม่เหมาะสมหรือเกินจำเป็น แม้ปวารณาไว้แล้วก็ปฏิเสธได้ หรือระงับการปวารณาที่เคยทำไว้แล้วก็ได้